PASSING (การส่งบอล)
การส่งบอลเป็นสิ่งที่สำคัญในการเล่นเป็นทีม เป็นทักษะพื้นฐานที่ผู้เล่นทุกคนต้องเรียนรู้รวมทั้งผู้รักษาประตูด้วย มีเหตุผลหลายประการที่จะใช้การส่งบอลไม่ว่าจะเป็น การทำให้บอลอยู่ในการครอบครองของทีม, การเคลียร์บอลออกจากพื่นที่อันตราย, การส่งเพื่อเปิดโอกาสในการทำประตูคู่แข่ง แต่สิ่งที่สำคัญที่เราต้องคิดไว้คือ "จงส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีม เมื่อเขาอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า"
TYPE OF PASS (รูปแบบของการส่งบอล)
การส่งบอลของผู้เล่นมีเพื่อพัฒนาการโจมตีคู่แข่ง หรือ การทำให้บอลเคลื่อนที่โดยไม่ถูกการสกัดจากฝ่ายตรงข้าม การผ่านบอลมีทั้งการส่งลูกเรียดหรือส่งลูกโด่ง การส่งบอลสั้นหรือส่งบอลยาว การส่งบอลสั้นเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด ส่วนการส่งบอลยาวด้วยลูกโด่งเป็นสี่งที่ยากที่สุด การส่งบอลในแต่ละรูปแบบล้วนมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
PASSING OPTIONS (ทางเลือกในการส่งบอล)
การส่งบอลสั้นมักใช้ในสถานการณ์ที่เรากำลังครอบครองบอลอยู่ใกล้ประตูคู่แข่ง เพื่อที่จะทำประตู หรือ สถานการณ์ของกองหลังที่ต่อบอลกันก่อนที่จะมีโอกาสเหมาะในการส่งบอลไปข้าง หน้า ส่วน การส่งแบบโค้งเข้า, การส่งแบบโค้งออก และการส่งบอลพุ่ง จะใช้ในการส่งบอลยาวซึ่งปกติบอลจะออกจากเท้าของผู้เล่นขณะที่เค้าอยู่ในแดน ตัวเองเพื่อให้บอลข้ามผ่านไปแดนคู่ต่อสู้

USING THE CHANNELS (ช่องทางในการส่งบอล)
ในบางครั้งเราอาจจะมองไม่เห็นเพื่อนร่วมทีมที่จะส่งบอลให้ เพราะอาจถูกฝ่ายตรงข้ามยืนขวางทางส่งอยู่ในกรณีเช่นนี้มีสองทางเลือกคือ เลี้ยงบอลไปกับตัวเพื่อให้เกิดช่องในการส่งบอล หรือ ส่งไปไปด้านหน้าในบริเวณที่คิดว่าเพื่อนร่วมทีมจะสามารถวิ่งมารับบอลได้ก่อน กองหลังของคู่ต่อสู้
SHORT PASS (การส่งบอลสั้น)
วิธีการส่งบอลสั้นที่ถูกต้องจะประกอบด้วยสองสิ่งคือ 1.บริเวณข้างเท้าด้านในที่ปะทะกับลูกบอล 2.แรงในการส่งบอลที่เหมาะสมเพื่อในไปถึงเป้าหมายโดยไม่ถูกสกัดในระยะทาง สั้นๆ ที่บอลเดินทางไป

ตำแหน่งที่สัมผัสลูกบอลกับเท้าของการส่งบอลแบบสั้น
MAKING A LONG PASS (การส่งบอลยาว)
การส่งบอลยาวหรือการครอสบอลควรทำอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจะช่วยให้ไม่ถูกสกัดจากกองหลังฝ่ายตรงข้ามที่พยายามป้องกันและความแม่น ยำในการส่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดส่งบอลยาว

ตำแหน่งที่สัมผัสลูกบอลกับเท้าของการส่งบอลแบบยาว
ADDING CURVE TO A LONG PASS OR CROSS (การส่งบอลยาวหรือครอสบอลแบบไซด์โค้ง)
การส่งบอลแบบไซด์โค้งมีประโยชน์มากในการใช้โจมตีคู่ต่อสู้ เพราะการโค้งของลูกจะทำให้กองหลังฝ่ายตรงข้ามยากที่จะคาดเดาทิศทางของลูกบอล และป้องกัน
มากกว่าการส่งลูกมาแบบตรงๆ ซึ่งป้องกันได้ง่ายกว่า

ตำแหน่งที่สัมผัสลูกบอลกับเท้าของการส่งบอลแบบไซด์ก้อยและไซด์โป้งตามลำดับ
ปล. รูปแสดงตำแหน่งที่ลูกบอลสัมผัสกับเท้าทุกรูป คือการเตะให้รูปวงรีสีแดงของเท้ากับวงรีของลูกบอล ประกบกันได้พอดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น